รายละเอียดเกี่ยวกับการทำคำสั่งการเทรด (Execution Rules Specifications)
เวลาเซิร์ฟเวอร์
เวลาเซิร์ฟเวอร์ของเราคือ GMT+2 ในฤดูหนาวและ GMT+3 ในช่วงฤดูร้อน
โปรดทราบว่าสหรัฐอเมริกาจะปรับเวลาในวันอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคมและเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ยุโรปปรับเวลาในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคม FXChoice จะปฏิบัติตามการเปลี่ยนแปลงเวลาของยุโรป
เราจะส่งอีเมลแจ้งรายละเอียดก่อนที่จะมีการปรับเวลา ฉะนั้นโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สมัครรับอีเมลของเราแล้ว
เวลาทำการของเรา
ตลอดทั้งวัน (24 ชั่วโมง) ตั้งแต่วันจันทร์ 00:00 น. ถึง วันศุกร์ 23:59:59 น. ตามเวลาของเซิร์ฟเวอร์. เนื่องจากเราให้บริการทั่วโลก เราจึงมีฝ่ายบริการลูกค้าในหลายภาษาด้วยกัน ซึ่งให้บริการลูกค้าที่อยู่ทั่วโลก ตามเวลาให้บริการของเรา. เราจะไม่มีการเสนอราคานอกเวลาทำการของเรา ดังนั้น ในช่วงที่ไม่ใช่เวลาทำการของเรา ลูกค้าจะไม่สามารถทำคำสั่งการเทรดได้.
วันหยุด
วันหยุดต่างๆจะถูกแสดงบนเว็บไซต์ของเรา, ในอีเมล หรือ เมลที่อยู่ในแพลตฟอร์มการเทรด MT4.
เวลาของ Market watch
เวลาที่แสดงอยู่ในหน้าต่าง Market watch ในแพลตฟอร์มการเทรด MT4 นั้น คือเวลาตอนที่ได้รับการเสนอราคาครั้งล่าสุด.
การเสนอราคา
เรามีราคาอยู่สองประเภทที่ใช้ในการเทรดตราสารทางการเงินทุกชนิด: ราคาที่สูงกว่า (ASK) คือราคาที่ลูกค้าสามารถซื้อตราสารทางการเงินนั้นๆได้ (go long) ส่วนราคาที่ต่ำกว่า (BID) คือราคาที่ลูกค้าสามารถขายตราสารทางการเงินนั้นๆได้ (go short).
Spread
Spread คือค่าส่วนต่างระหว่างราคาขาย (BID) และราคาซื้อ (ASK). Spread คือค่าส่วนต่างระหว่างราคาขาย (BID) และราคาซื้อ (ASK). เราไม่มีการเสนอราคาแบบ spread ติดลบ. เรามีค่า Spread ที่ถือว่าต่ำเป็นอันดับต้นๆในบรรดาโบรกเกอร์ต่างๆ . สิ่งที่สามารถประเมินค่า spread ของเราได้ดีที่สุด คือ การเปิดบัญชี demo.
*สิ่งสำคัญ. เนื่องจากเราเป็นโบรกเกอร์ที่มีค่า spread แบบไม่คงที่ ดังนั้น ค่า spread จะขึ้นอยู่กับสภาวะและสภาพคล่องของตลาดซึ่งกำหนดโดยธนาคารต่างๆ. ในช่วงที่ตลาด fx มีความแปรปรวน และ/หรือ ไม่ค่อยคล่องตัว ในช่วงนั้น ค่าของ spread จะปรับสูงขึ้น.
ประเภทคำสั่ง
‘Market order’ เป็นประเภทคำสั่งที่ง่ายที่สุด โดยเป็นคำสั่งซื้อหรือขายในราคาตลาดปัจจุบัน
‘Pending order’ เป็นคำสั่งเพื่อซื้อหรือขายในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในอนาคต โดยประเภทของ pending order จะมีดังต่อไปนี้:
- Buy Limit
- Buy Stop
- Sell Limit
- Sell Stop
คุณสามารถเพิ่ม Stop Loss และ/หรือ Take Profit ได้ในทุกคำสั่ง
* คุณสามารถแก้ไขระดับ Stop Loss/Take Profit ก่อนหรือหลังส่งคำสั่งซื้อขายก็ได้ แต่ตัวคำสั่งเองนั้นไม่สามารถแก้ไขหรือลบได้เมื่อถูกดำเนินการไปแล้วโดยโบรกเกอร์.
การทำคำสั่งเทรด
คำสั่ง Buy Limit, Buy Stop, Stop Loss และ Take Profit ที่ใช้ในคำสั่งขายที่เปิดอยู่ จะใช้ราคาจากราคาซื้อ (ASK) .
คำสั่ง Sell Limit, Sell Stop, Stop Loss และ Take Profit ที่ใช้ในคำสั่งซื้อที่เปิดอยู่ จะใช้ราคาจากราคาขาย (BID) .
*คำสั่ง Stop Loss, Take Profit, Buy Limit, Buy Stop, Sell Limit และ Sell Stop จะทำคำสั่งที่ราคาที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ในสภาวะการเทรดบางช่วง อาจะทำให้ทำคำสั่งตามราคาที่กำหนดไว้ไม่ได้ ทาง FX Choice มีสิทธิ์ในการทำคำสั่งให้อัตโนมัติด้วยราคาที่ดีที่สุดถัดไป . ในกรณีนี้ที่เกิดขึ้น อาจทำให้ราคาที่ทำคำสั่งคาดเคลื่อน และอาจส่งผลดี หรือ ผลเสียให้กับการเทรดของคุณได้.
ขนาดล็อตต่ำสุดที่สามารถเทรดได้
ขนาดการเทรดต่ำสุดคือ 0.01 ล็อต
ตัวอย่าง 1:
สำหรับคู่เงิน มูลค่าของขนาดสัญญาคือ 100,000
นี่หมายความว่าปริมาณการเทรด 1 ล็อตจะเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก ดังนั้น ขนาดล็อตต่ำสุดที่สามารถเทรดได้ที่ 0.01 ล็อตสำหรับสกุลเงินจะเท่ากับ:
0.01*100,000 = 1,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก
ตัวอย่าง 2
ในเทอร์มินัลการเทรดสำหรับทองคำ (XAUUSD) มูลค่าของขนาดสัญญาคือ 100
นี่หมายความว่าปริมาณการเทรด 1 ล็อตจะเท่ากับ 100 หน่วยของ XAU (ทองคำ)
ดังนั้น ขนาดล็อตต่ำสุดที่สามารถเทรดได้ที่ 0.01 ล็อตสำหรับโลหะมีค่าจะเท่ากับ:
0.01*100 = 1 หน่วยของ XAU (ทองคำ)
จำนวนหน่วยของสกุลเงินหลักใน 1 ล็อตมีการระบุไว้ในข้อกำหนดเฉพาะของสัญญา คุณสามารถดูข้อมูลนี้ได้ในหน้าข้อกำหนดเฉพาะของของตราสารหรือบนแพลตฟอร์มเทรดของเรา
Leverage/Margin
Margin คือจำนวนเงินที่คุณต้องมีอยู่ในบัญชีก่อนที่จะทำการเปิดการเทรด. Leverage ของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณต้องใช้ margin เท่าไหร่ในการเปิดการเทรด. สัดส่วนของ leverage สูงสุดที่สามารถมีได้คือ 1:200. โปรดอ่านที่หน้า (FAQ) ของเราในนั้นจะมีคำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับการคำนวณ margin.
ระดับ Margin ที่ต้องใช้ในการเปิดสถานะแบบล็อคหรือการเทรดแบบป้องกันความเสี่ยง
Margin ป้องกันความเสี่ยงคือเงินที่ต้องใช้ในการเปิดและรองรับสถานะการเทรดแบบล็อค (ป้องกันความเสี่ยง) ซึ่งเป็นสถานะที่เปิดอยู่ในตราสารเดียวกันแต่ในทิศทางที่ต่างกัน
การคำนวณ margin ในการเทรดแบบป้องกันความเสี่ยงมีหลายขั้นตอน:
สำหรับปริมาณที่ไม่ครอบคลุม
สำหรับปริมาณที่ครอบคลุม (หากมีการระบุขนาด margin ป้องกันความเสี่ยง)
มูลค่า margin ที่เกิดขึ้นจะถูกคำนวณเป็นผลรวมของ margin ที่คำนวณในแต่ละขั้นตอน
ขนาดของ margin ป้องกันความเสี่ยงสำหรับสถานะที่ล็อคไว้สามารถดูได้ในเว็บไซต์ของเราและแพลตฟอร์มเทรดของเราในข้อกำหนดเฉพาะของสัญญาสำหรับแต่ละตราสาร
ระดับ Margin Call และ Stop Out ของคุณอยู่ที่เท่าไหร่?
ข้อจำกัดนี้แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชี. หากคุณมีบัญชี MT4 แบบ classic คุณจะได้รับ margin call ที่ 25% และจะถูก stop out ที่ 15%. ซึ่งหมายถึง คุณจะได้รับคำเตือน เมื่อจำนวนเงินในบัญชีลดลงเหลืออยู่ที่ระดับ 25% ของระดับ margin ที่ต้องมีในการเทรดที่เปิดอยู่ เช่น การเทรดที่เปิดอยู่จะถูกระบายสีแดงในแพลตฟอร์มการเทรด MetaTrader4. หากคุณยังคงขาดทุนกับการเทรดที่เปิดอยู่ และระดับเงินในบัญชีของคุณตกลงมาเรื่อยๆจนต่ำกว่า 15% ของระดับ margin ที่ต้องใช้ การเทรดที่มีอยู่นั้นจะถูก stop out. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ คุณต้องไตร่ตรองว่าการเทรดไหนที่ควรปิด หรือ ทำการเพิ่มเงินเข้าในบัญชีเพื่อทำการเทรดต่อไป. โปรดดูที่หน้า (FAQ) ของเรา สำหรับตัวอย่างและคำอธิบายเพิ่มเติม.
ค่าใช้จ่ายทางการเงิน
สถานะใดๆ ที่ถือครองอยู่ในตอนสิ้นสุดของวันอาจมี ‘ค่าใช้จ่ายทางการเงิน’ ซึ่งจะแสดงขึ้นในบัญชี FXChoice ในรูปแบบของ ‘โรลโอเวอร์’
จำนวนดอกเบี้ยที่หักออกหรือโอนเข้ารายวันของเรา (นับจากนี้เรียกว่า ‘โรลโอเวอร์’) จะขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ตราไว้ทั้งหมดของสถานะ
โปรดทราบว่าโรลโอเวอร์ที่แสดงรายละเอียดใน MetaTrader นั้นมีไว้สำหรับ 1 ล็อตและไม่ใช่ขนาดการเทรดขั้นต่ำ
CFD ฟอเร็กซ์
- ในแต่ละวัน จำนวนโรลโอเวอร์ต่อล็อตจะแสดงอยู่ในหน้าต่าง ‘ข้อกำหนดเฉพาะของสัญญา’ สถานะฟอเร็กซ์ที่เปิดอยู่ในช่วงปิดทำการของวันพุธจะมีค่าโรลโอเวอร์ 3 วัน
CFD สกุลเงินดิจิตอล
- ในแต่ละวัน จำนวนโรลโอเวอร์ต่อล็อตจะแสดงในหน้าต่าง ‘ข้อกำหนดเฉพาะของสัญญา’ สถานะสกุลเงินดิจิตอลที่เปิดอยู่ในช่วงปิดทำการของวันศุกร์จะมีค่าโรลโอเวอร์ 3 วัน
CFD ดัชนีตลาดหุ้น
- ในแต่ละวัน จำนวนโรลโอเวอร์ต่อล็อตจะแสดงอยู่ในหน้าต่าง ‘ข้อกำหนดเฉพาะของสัญญา’ สถานะของดัชนีตลาดหุ้นที่เปิดอยู่ในช่วงปิดทำการของวันศุกร์จะมีค่าโรลโอเวอร์ 3 วัน
- จะปรับใช้กับดัชนีเงินสดส่วนใหญ่ การจ่ายเงินปันผลจะถูกดำเนินการเป็นรายการหักออก/โอนเข้าพร้อมกับโรลโอเวอร์ไปยังสถานะที่เปิดอยู่ของคุณ การปรับจะมีผลในวันก่อนวันจ่ายเงินปันผลของสมาชิกที่เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีที่เกี่ยวข้อง การปรับจะปรากฏเป็นส่วนหนึ่งของการหักออก/โอนเข้าของโรลโอเวอร์ในรายการเดินบัญชีของคุณ
เมื่อหุ้นมีการจ่ายเงินปันผล ราคาของหุ้นนั้นจะลดลงในทางทฤษฎีตามจำนวนเงินปันผล ในทางปฏิบัติ สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไปเนื่องจากกลไกตลาดจำนวนมากมีผลต่อราคาหุ้น จำนวนจุดที่ CFD ดัชนีเงินสดปรับลดลงนั้นขึ้นอยู่กับมูลค่าของหุ้นภายในดัชนี หากมีหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของ CFD ดัชนีมากกว่าหนึ่งรายการที่ทำการปันผลในวันเดียวกัน ตามทฤษฎีแล้วจำนวนจุดของหุ้นแต่ละรายการจะทำให้ภาคส่วนหรือดัชนีปรับลงโดยบวกรวมเข้าด้วยกันเพื่อคำนวณจำนวนรวมของจุดของหุ้นหรือ ‘จุดปรับลง’ ทั้งหมด FXChoice จะเรียกเก็บหรือ
จ่ายเงินปันผลจากสถานะป้องกันความเสี่ยงที่เราได้ลงการเทรดกับ CFD ที่ลูกค้าออกไว้
การจ่ายเงินปันผลจะไม่ถูกหักออก/โอนเข้าในกรณีที่ดัชนีเป็นดัชนีผลตอบแทนรวม (Total Return Index)
ตัวอย่างของดัชนีผลตอบแทนรวมคือ DE30Index ที่ซึ่งการเบิกจ่ายเงินสดจะถูกนำกลับไปลงทุนในดัชนี
CFD สินค้าโภคภัณฑ์
- CFD พลังงาน
WTICrude และ BrentCrud: CFD เหล่านี้เป็นตราสารล่วงหน้าจึงไม่มีการโอนเข้า/หักออกข้ามคืนหรือไม่มีเงินปันผล
WTISpot และ BrentSpot: ในแต่ละวัน จำนวนโรลโอเวอร์ต่อล็อตจะแสดงในหน้าต่าง ‘ข้อกำหนดเฉพาะของสัญญา’ น้ำมันจะมีค่าโรลโอเวอร์ 3 วันในวันพุธ - CFD โลหะมีค่า
ในแต่ละวัน จำนวนโรลโอเวอร์ต่อล็อตจะแสดงในหน้าต่าง ‘ข้อกำหนดเฉพาะของสัญญา’ สถานะที่เปิดอยู่ในช่วงปิดทำการของวันพุธจะมีค่าโรลโอเวอร์ 3 วัน
ค่าคอมมิชชั่น ECN
โปรดทราบว่าการคำนวณค่าคอมมิชชั่น ECN จะขึ้นอยู่กับปริมาณการเทรดที่เป็น USD การเทรดทั้งหมดในบัญชี PRO จะต้องเสียค่าคอมมิชชั่น USD 7.00 ต่อจำนวนตามสัญญาของการเทรด USD 100,000 (1.0 ล็อต) โปรดเยี่ยมชมในส่วนของคำถามที่พบบ่อยของเราเพื่อดูตัวอย่าง
คุณสามารถใช้โปรแกรม Pips+ ของเราเพื่อลดค่าคอมมิชชั่น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมซึ่งออกแบบมาเพื่อให้รางวัลแก่เทรดเดอร์ที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดด้วยค่าใช้ในการเทรดที่ลดลง ให้คลิกที่นี่.